ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Featured post

รีวิวเกม Mafia The Old Country – ตำนานมาเฟียสู่โลกเกมที่ห้ามพลาด

Stray เกมรีวิว

 

โลกของวิดีโอเกมมักเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สัมผัสมุมมองของมนุษย์เป็นหลัก แต่ครั้งนี้ "Stray" เกมจาก BlueTwelve Studio และจัดจำหน่ายโดย Annapurna Interactive ได้พลิกโฉมประสบการณ์ด้วยแนวคิดสุดสร้างสรรค์ — ให้เราเล่นเป็น "แมว" ตัวหนึ่งท่ามกลางโลกอนาคตไซเบอร์พังพินาศ ซึ่งเต็มไปด้วยเมืองลึกลับ ตึกสูงระฟ้า และซากวิถีชีวิตที่ถูกทิ้งร้าง

ทันทีที่เริ่มเกม สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือ "บรรยากาศของเมืองที่สมจริงและมีรายละเอียดสูง" ทุกซอกมุมเต็มไปด้วยแสงนีออนที่สะท้อนบนถนนเปียก ๆ ขยะที่กระจัดกระจาย และป้ายโฆษณาภาษาต่าง ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอนาคตแห่งไซเบอร์พังก์ แมวของเราสามารถปีนป่าย กระโดดบนหลังคา เดินลัดตามท่อ และซุกตัวในเงามืด ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวมีชีวิตชีวาและสมจริงมากกว่าการควบคุมตัวละครมนุษย์ทั่วไป

สิ่งที่ Stray ทำได้ดีคือ "การผสมผสานระหว่าง exploration และ narrative" เรื่องราวไม่ได้ถูกยัดเยียดด้วยบทพูดหรือ cutscene ยาว ๆ แต่เล่าออกมาผ่านสภาพแวดล้อม สิ่งของรอบตัว และการสื่อสารกับหุ่นยนต์ที่เรียกว่า B-12 เพื่อนร่วมทางผู้ซื่อสัตย์ การสำรวจเมืองใต้ดินและชั้นสูงของตึกพังพินาศค่อย ๆ เผยให้เห็นความลับของโลกที่ถูกลืม และสะท้อนความโดดเดี่ยวของเมืองแห่งนี้ได้อย่างลึกซึ้ง



ในด้าน "การนำเสนอภาพและเสียง" Stray มีความโดดเด่นแบบครบเครื่อง ทั้งแสง เงา และ ambient sound ของเมืองที่เหมือนมีชีวิต ทั้งเสียงแตรยานยนต์ แผ่นป้ายสั่นสะเทือน และเสียงแมวของเราเองที่ตอบสนองต่อสิ่งรอบตัว ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ การควบคุมแมวก็ทำได้ลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด ขึ้นที่สูง หรือซ่อนตัวจากศัตรู

ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมผจญภัยสไตล์ exploration หรือผู้ที่ชอบมุมมองแปลกใหม่ "Stray" ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสโลกไซเบอร์ผ่านสายตาแมว ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากเกมอื่น ๆ ในตลาดปัจจุบัน

Stray – เรื่องราวของแมวผู้หลงทางในโลกไซเบอร์พังก์


เกมนี้อาจไม่ได้พุ่งตรงไปที่บทพูดหรือการเล่าเรื่องแบบคลาสสิก แต่กลับใช้วิธี เล่าเรื่องผ่านสภาพแวดล้อมและการกระทำของตัวละคร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเกม ผู้เล่นจะรับบทเป็นแมวตัวหนึ่งที่พลัดหลงเข้ามาในเมืองใต้ดินที่ถูกทิ้งร้าง ตั้งแต่แรกเริ่ม เราจะถูกทิ้งให้อยู่ท่ามกลางซากอารยธรรม มีแต่ซากตึกสูงระฟ้า แสงนีออนที่แผ่วไหว และเสียงเครื่องจักรจากหุ่นยนต์ที่ยังทำงานอยู่
แมวของเราไม่ได้อยู่ตัวเดียว — การมาของ B-12 หุ่นยนต์เล็กผู้ซื่อสัตย์กลายเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราว มันไม่เพียงช่วยในการสื่อสารกับโลกของหุ่นยนต์ แต่ยังค่อย ๆ เผยให้เห็นอดีตและความลับของเมืองใต้ดินแห่งนี้ การโต้ตอบกับ B-12 ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนมีเพื่อนร่วมทางและมีจุดมุ่งหมาย แม้ว่าตัวเราจะเป็นสัตว์สี่ขาที่ไม่สามารถพูดได้
สิ่งที่ทำให้เรื่องราวของ Stray แตกต่างจากเกมผจญภัยอื่น ๆ คือวิธีที่มันสร้างความผูกพันโดยไม่ต้องใช้คำพูดเยอะ การสำรวจแต่ละมุมของเมืองใต้ดินและชั้นสูงของตึกเผยให้เห็นปริศนาของสังคมหุ่นยนต์ การพบหุ่นยนต์ที่โดดเดี่ยว การอ่านโน้ตหรือสัญลักษณ์บนผนัง และเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ล้วนสอดคล้องกับธีม ความโดดเดี่ยว การแสวงหาเพื่อน และการหาทางกลับบ้าน
เนื้อเรื่องยังมีความลึกในแง่ สัญลักษณ์และอารมณ์ การเป็นแมวทำให้เราเห็นเมืองจากมุมต่ำ ๆ เหมือนผู้สังเกตการณ์ตัวเล็ก ๆ ที่ต้องฝ่าฟันความท้าทาย โลกที่ถูกสร้างขึ้นเต็มไปด้วยการตีความ ทั้งความหวัง ความเศร้า และความงดงามในสิ่งเล็ก ๆ รอบตัว เช่น การกระโดดไปบนหลังคา การซ่อนตัวในเงามืด หรือการคลอเคลียกับ B-12
นอกจากนี้ Stray ยังสร้าง ความต่อเนื่องของเรื่องราวแบบไม่เร่งรีบ ผู้เล่นค่อย ๆ แก้ปริศนา ค้นหาทางไป และรับรู้ความเปราะบางของสังคมหุ่นยนต์ การเล่าเรื่องแบบ environmental storytelling นี้ทำให้แม้ผู้เล่นจะเป็นเพียงแมว แต่กลับรู้สึกถึง ความสัมพันธ์ ความเสียสละ และความอบอุ่น ของเมืองใต้ดินอย่างลึกซึ้ง
โดยรวม เรื่องราวของ Stray อาจเรียบง่ายในผิวเผิน แต่เต็มไปด้วย อารมณ์และความหมายเชิงลึก ผ่านมุมมองของตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ มันเป็นการเล่าเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่จับใจผู้เล่นได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่แมวตัวเล็ก ๆ กระโดดลงสู่โลกไซเบอร์พังก์นี้


สิ่งแรกที่สะกดสายตาผู้เล่นคือ กราฟิกสุดประณีตและบรรยากาศสมจริง เกมนี้สร้างโลกใต้ดินที่ถูกทิ้งร้างได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตึกสูงระฟ้าที่เรียงซ้อนกัน ถนนเปียกสะท้อนแสงนีออน ป้ายโฆษณาที่สั่นไหว หรือหุ่นยนต์ที่คอยทำงานในเงามืด ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบด้วยความใส่ใจในรายละเอียดสูงสุด ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกไซเบอร์พังก์ที่มีชีวิตของจริง
สิ่งที่ Stray ทำได้ดีเป็นพิเศษคือ การใช้มุมกล้องและการเคลื่อนไหวของตัวละคร การควบคุมแมวที่ลื่นไหลทั้งการปีน กระโดด ขึ้นลงท่อ หรือซุกตัวในมุมมืด ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวรู้สึกเป็นธรรมชาติ มุมกล้องที่ปรับแบบ third-person อย่างชาญฉลาดช่วยให้เห็นรายละเอียดรอบตัว แต่ยังคงความรู้สึกใกล้ชิดเหมือนมองผ่านสายตาของแมว
ในด้าน เสียงและดนตรี Stray ก็ไม่แพ้กัน เสียงแวดล้อมเต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งเสียงเครื่องจักร เสียงหุ่นยนต์ เสียงแตรยานยนต์ และเสียงแมวของตัวละครที่ตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวอย่างมีชีวิตชีวา ดนตรีประกอบเน้นความลึกลับและเหงา ช่วยเสริมบรรยากาศเมืองใต้ดินและชั้นสูงของตึก ทำให้ผู้เล่นอินไปกับการสำรวจและความโดดเดี่ยวของโลกนี้
การ ออกแบบ UI และอินเตอร์เฟซ ก็เรียบง่ายและเป็นมิตรต่อผู้เล่น ไม่มีเมนูซับซ้อน มุ่งเน้นไปที่การสำรวจและ interaction กับสภาพแวดล้อม การใช้สี เสียง และเอฟเฟกต์เชิงสัญลักษณ์ช่วยให้ผู้เล่นเข้าใจสิ่งที่ต้องทำและรู้สึกถึงความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมทาง B-12
อีกหนึ่งจุดเด่นคือ การผสมผสานระหว่าง visual storytelling และ environmental storytelling ทำให้ทุกมุมของเมืองใต้ดินเล่าเรื่องได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่ซากเครื่องจักรไปจนถึงหุ่นยนต์ที่ถูกทิ้งลืม การออกแบบเหล่านี้ทำให้ Stray ไม่ใช่แค่เกมผจญภัย แต่เป็นประสบการณ์สุนทรียภาพที่ผู้เล่นสามารถซึมซับได้อย่างเต็มที่

ความละเอียดอ่อนทั้งภาพและเสียง ที่ช่วยให้ผู้เล่นอินไปกับโลกไซเบอร์พังก์ผ่านมุมมองของแมว ทำให้ทุกการเคลื่อนไหว การสำรวจ และ interaction กับสภาพแวดล้อมกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและมีชีวิตชีวา

Stray เกมรีวิว


สิ่งที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นคือการ ให้ผู้เล่นได้สัมผัสโลกไซเบอร์พังก์ผ่านมุมมองของแมว การเคลื่อนไหวของตัวละครลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ ทั้งการปีน กระโดด กระโดดข้ามร่องหรือท่อ แอบซ่อน และสำรวจทุกซอกทุกมุมของเมืองที่เต็มไปด้วยรายละเอียด แม้จะเป็นเพียงสัตว์สี่ขา แต่ผู้เล่นกลับรู้สึกควบคุมทุกการกระทำได้อย่างแม่นยำและสนุกสนาน
เกมออกแบบ mechanics การสำรวจและปริศนาอย่างลงตัว ผู้เล่นต้องใช้ความสามารถเฉพาะของแมวในการเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ปีนป่ายบนหลังคา ขึ้นลงท่อ หรือกระโดดไปยังจุดที่หุ่นยนต์เข้าถึงไม่ได้ ปริศนาหรืออุปสรรคในเกมส่วนใหญ่ไม่ได้ซับซ้อนเกินไป แต่เน้นให้ผู้เล่นได้ใช้ ความคิดสร้างสรรค์และมุมมองใหม่ ๆ เช่น การกระโดดจากผนังหนึ่งไปยังอีกผนัง หรือใช้สิ่งแวดล้อมเป็นทางลัด
อีกหนึ่งระบบที่ช่วยเพิ่มความสนุกคือ การโต้ตอบกับ B-12 เพื่อนร่วมทางหุ่นยนต์ ผู้เล่นสามารถให้ B-12 ช่วยเปิดประตู ค้นหาสิ่งของ หรือสื่อสารกับหุ่นยนต์ตัวอื่น ๆ ซึ่งสร้างทั้งมิติของเกมเพลย์และ narrative ไปพร้อมกัน ระบบนี้ไม่ซับซ้อน แต่ช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกมีเป้าหมายและมีกิจกรรมให้ทำตลอดเวลา
นอกจากนี้ Stray ยังนำเสนอ การหลบหนีและ stealth element อย่างชาญฉลาด แมวของเราสามารถซ่อนตัวในเงามืด ปีนไปบนสิ่งของ หรือเลี่ยงศัตรูโดยไม่ต้องต่อสู้ ระบบนี้ทำให้การสำรวจเมืองใต้ดินมี tension และเพิ่มความท้าทายโดยไม่ทำให้เกมเครียดเกินไป
การควบคุม camera และ perspective ก็ทำได้ดีมาก มุมมอง third-person แบบปรับเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวของแมว ทำให้ผู้เล่นมองเห็นพื้นที่รอบตัวชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังคงความรู้สึกเหมือนเราเป็นแมวตัวเล็ก ๆ ที่ต้องสำรวจโลกใหญ่ การปรับกล้องแบบอัตโนมัติหรือ manual ก็ลื่นไหล ไม่ทำให้ผู้เล่นหงุดหงิด
สุดท้าย เกมเพลย์ของ Stray ไม่ได้เน้นการต่อสู้ แต่ เน้น exploration, interaction และ discovery ทุกการกระโดด การซ่อนตัว และการใช้สิ่งแวดล้อมอย่างชาญฉลาดกลายเป็นประสบการณ์สนุกและสมจริง การออกแบบนี้ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่า ทุกการเคลื่อนไหวมีความหมาย และโลกของเกมมีชีวิตจริง ความสมดุลระหว่างความท้าทายและความเพลิดเพลิน การสำรวจเมืองไซเบอร์พังก์แบบ open-ended พร้อมกับความสามารถเฉพาะของแมว ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่รอให้ค้นพบ

Stray เกมรีวิว



เมื่อพูดถึง Performance ของ Stray สิ่งที่สะดุดตาทันทีคือ ความลื่นไหลของเกมเพลย์และความสเถียรของเฟรมเรต ไม่ว่าจะเล่นบน PC หรือคอนโซล ตัวเกมแทบไม่มีอาการกระตุก แม้จะมีเมืองไซเบอร์พังก์ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยแสงนีออน เศษขยะ และ NPC หุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวรอบตัว ระบบ physics ของแมวและการโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมทำงานได้อย่างราบรื่น ทำให้ทุกการปีนป่าย การกระโดด และการสำรวจรู้สึก สมจริงและตอบสนองทันที
อีกหนึ่งจุดเด่นของ Stray คือ การปรับตัวเข้ากับฮาร์ดแวร์ได้ดี บน PC สามารถปรับกราฟิกและรายละเอียดได้หลายระดับ ตั้งแต่ Medium ไปจนถึง Ultra โดยยังคงเฟรมเรตที่นิ่งและโหลดฉากรวดเร็ว ส่วนบน PS4/PS5 หรือ Xbox Series X/S ตัวเกมสามารถรักษาความละเอียดและเฟรมเรตให้เหมาะสมกับฮาร์ดแวร์ ทำให้ผู้เล่นไม่รู้สึกสะดุดระหว่างการสำรวจเมืองใต้ดิน
แม้ว่าโลกของ Stray จะเต็มไปด้วย แสง, เงา, และอนิเมชันละเอียด แต่ performance โดยรวมยังคงเสถียร ไม่มีปัญหา texture pop-in หรือ frame drop จนรบกวนประสบการณ์ นอกจากนี้ ระบบเสียง spatial audio และเอฟเฟกต์เสียงรอบตัวทำงานได้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของแมวและสิ่งรอบตัว ส่งผลให้ immersion ของผู้เล่นสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
บางครั้งอาจพบ loading screen สั้น ๆ เมื่อเปลี่ยนฉากหรือขึ้นไปยังชั้นสูงของเมือง แต่ถือเป็นจุดเล็ก ๆ ที่ไม่กระทบต่อความต่อเนื่องของการเล่น และจากการทดสอบบนหลายแพลตฟอร์ม พบว่าตัวเกมสามารถรักษา performance ได้ดีทั้งในส่วนของ exploration, interaction และ cutscene แบบ real-time จึงเป็น จุดแข็งสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์เล่น ทำให้ผู้เล่นจมดิ่งไปกับโลกไซเบอร์พังก์และการสำรวจของแมวตัวเล็ก ๆ ได้อย่างเต็มที่

คะแนนรีวิว Stray 
Story 9 – การเล่าเรื่องผ่านสิ่งแวดล้อมและ interaction ทำได้ละเอียดและตรึงใจ
Presentation 10 – กราฟิก แสง เงา และเสียงสมจริง จับใจตั้งแต่แรกเห็น
Gameplay  9 – การควบคุมแมวลื่นไหล ปริศนาและ exploration สนุก
Performance 9.5 – เกมลื่นไหล เสถียร และปรับตัวเข้ากับฮาร์ดแวร์ได้ดี
Total Score 9.3/10

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

TEKKEN 8 เกมรีวิว

   ในโลกของเกมไฟท์ติ้ง “Tekken” ถือเป็นซีรีส์ที่อยู่คู่กับวงการมาตลอดกว่า 3 ทศวรรษ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวในยุคอาร์เคด จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำเครื่อง PlayStation และเติบโตมาพร้อมกับผู้เล่นหลายเจเนอเรชัน ความโดดเด่นของ Tekken อยู่ที่การต่อสู้แบบ 3D ที่ให้ผู้เล่นได้ขยับเข้า–ออกด้านข้าง ใช้การเคลื่อนไหวอ่านเชิงคู่ต่อสู้ และระบบ “คอมโบ” ที่หนักหน่วงสะใจไม่เหมือนใคร ทุกครั้งที่มีภาคใหม่ออกมา มันไม่ใช่แค่การสานต่อชื่อเสียง แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่าซีรีส์นี้ยังคงมีที่ยืนในเวทีโลกของเกมไฟท์ติ้งที่แข่งขันกันดุเดือด เมื่อ Tekken 7 วางจำหน่ายในปี 2015 เกมก็ได้รับเสียงตอบรับมหาศาล ทั้งจากผู้เล่นทั่วไปและสายแข่งขันระดับ eSports กลายเป็นเวทีสำคัญของการแข่งขันอย่าง EVO และเป็นตัวแทนของการกลับมาของ Tekken อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากนั้น แฟน ๆ ต่างก็ตั้งคำถามว่า Bandai Namco จะพาแฟรนไชส์นี้ไปทางไหนต่อ และสิ่งที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง—Tekken 8 ภาคล่าสุดนี้มาพร้อมกับการใช้พลังของ Unreal Engine 5 แบบเต็มรูปแบบ ทำให้กราฟิก การออกแบบตัวละคร และเอฟเฟกต์ต่อสู้ดูสมจริงและทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ Ban...

Rise of The Ronin เกมรีวิว

ถ้าพูดถึงเกมที่พาผู้เล่นย้อนกลับไปสู่บรรยากาศญี่ปุ่นโบราณ หลายคนอาจจะนึกถึง Ghost of Tsushima หรือ Sekiro แต่สำหรับ Rise of the Ronin นี่คือการเปิดม่านใหม่จากทีมพัฒนา Team Ninja ที่เลือกหยิบช่วงเวลาประวัติศาสตร์สำคัญของญี่ปุ่นในยุคบาคุมัตสึ มาถ่ายทอดในรูปแบบแอ็กชัน RPG ที่เน้นทั้งการต่อสู้ การตัดสินใจ และการเลือกเส้นทางชีวิตของ “โรนิน” ผู้ไร้นาย สิ่งแรกที่เกมวางน้ำหนักเอาไว้อย่างชัดเจนคือ “เสรีภาพ” ในการเล่น ผู้เล่นจะไม่ได้ถูกจำกัดให้เดินตามเส้นเรื่องแบบเส้นตรง แต่สามารถกำหนดชะตากรรมของตัวละครผ่านการเลือกฝักฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นซามูไรฝ่ายโชกุนที่ยังยึดมั่นกับระเบียบเดิม กลุ่มนักปฏิรูปที่ต้องการเปิดประเทศสู่โลกตะวันตก หรือแม้แต่เลือกใช้ชีวิตในฐานะโรนินผู้โดดเดี่ยวที่ไม่ขึ้นตรงต่อใคร การตัดสินใจแต่ละครั้งไม่ได้เป็นเพียงแค่คำพูดในบทสนทนา แต่ยังสะท้อนกลับมาที่เส้นทางการเล่น การเมือง และแม้กระทั่งความสัมพันธ์กับตัวละครสำคัญ บรรยากาศของ Rise of the Ronin ถูกสร้างขึ้นอย่างละเอียดราวกับบทบันทึกประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต เมืองเอโดะที่พลุกพล่าน หมู่บ้านชนบทที่ยังคงกลิ่นอายญี่ปุ่นแท้ ๆ ไปจนถึงสนามรบที่เ...

God of War Ragnarok เกมรีวิว

    สิ้นสุดการรอคอยการรอคอยกับภาคต่อเกมที่สุดยอด มาดูกันว่าจะดีขนาดไหน ฤดูหนาวที่ยาวนานกว่า 3 ปีแรกของ ragnarok สงครามเทพเจ้าและการล่มสลายของทุกสรรพสิ่งที่รู้ตัวนะว่า เขาคือโลกีย์แล้วนะเจ้าไหนคำทำนายจะมีบทบาทสำคัญในป่าแล้วพากันออกไปผจญภัยเพื่อหาทางยึด ragnarok M มีอย่างเดียวก็คือความปลอดภัยของลูกชายเกิดเหตุการณ์ บางอย่างทำให้ทุกคนได้เห็นว่าบ้านเขาไม่ปลอดภัยอีกแล้วไม่มีทางเลือกต้องออกจากภัยครั้งก่อนที่รักๆ จะมาถึงจากความรู้สึกผิดพลาดนี้อย่างแรกรู้สึกเลยก็คือยาวมากและความผิดพลาด เป็นเรื่องราวที่ปิดฉันทุกอย่างมีแต่เทพน้อยให้มันเต็มเรื่องเต็มเรื่องเต็มเรื่องรายละเอียดที่ต้องเหล้าเยอะมากยังดีที่ว่าเกมนี้ไปเล่าเรื่องผ่านสายข้อมูลผ่านการหน้าต่างแบบนั้นทุกอย่างจะถูกแสดง ให้เห็นแบบตัวเป็นๆด้วยความที่เราไม่สามารถทดแทนได้เยอะผมบอกด้วยละกันว่าสิ่งที่คุณจะได้เห็นจากเนื้อหานี้จะเป็นเนื้อเรื่องน้อยกว่า 10% ของทั้งเกมหลัง 10% เราก็มาช่วยไม่ได้จริงๆขอให้ มีโชคไม่งั้นสบายดีและมีความผิดทั้งยาวทั้งลึกทั้งหลายนั่นแหละให้มันเป็นการเดินทางที่แต่งเรื่องรสชาติเขียนบทสรุปของผมเรื่องที่ยังค้างคาจาก...