แม้หลังจากเปิดตัวไปสามสัปดาห์การขยายตัวที่ถูกทอดทิ้งของ Destiny 2 ก็ทำให้รู้สึกท่วมท้น สำหรับทุกคนยกเว้นผู้เล่นที่ทุ่มเทที่สุดมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจมใน 10 วันระหว่างการเปิดตัวและการเปิดตัว นั่นเป็นความผิดพลาดบางส่วนของปัญหาที่ได้รับการแก้ไขในตอนนี้ซึ่งทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเลเวลได้อย่างถูกต้อง แต่มันก็บ่งบอกว่า Destiny 2 ได้ขยับไปในทิศทาง "ฮาร์ดคอร์" แค่ไหน อย่างไรก็ตามรากฐานที่แข็งแกร่งของกิจกรรมที่เข้าถึงได้มากขึ้นพร้อมกับแคมเปญใหม่ที่น่าสนใจและโหมดใหม่ที่ยอดเยี่ยมในกลเม็ดช่วยชดเชยข้อ จำกัด ในระดับที่ห้ามปรามในช่วงท้ายเกม หลังจากการขยายที่น่าผิดหวังสองครั้งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ Destiny 2 ได้เข้าร่วมคุณต้องอดทนกับมัน
ในขณะที่อาร์คสงครามสีแดงในเกมพื้นฐานอาศัยผู้กำกับดูแลที่ชั่วร้ายอย่างเปิดเผยที่จะขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้าเรื่องราวของ Forsaken ถูกสร้างขึ้นรอบการแสวงหาความรู้น้อย การตายของเคย์เตที่จุดเริ่มต้นของการรณรงค์เริ่มต้นคุณออกเดินทางเพื่อแก้แค้นซึ่งหมายถึงการล่าและฆ่าผู้ที่รับผิดชอบ: แปดยักษ์ใหญ่ศัตรูที่ทรงพลังจากเผ่า Scorn ใหม่ โครงสร้างที่เน้นบอสและโทนสีเข้มทำให้แคมเปญที่น่าสนใจและหลากหลายมากขึ้นซึ่งแต่ละภารกิจรู้สึกเหมือนเป็นขั้นตอนที่จำเป็นมากกว่าการทำงานที่ยุ่งโดยไม่มีวัตถุประสงค์ในการเล่าเรื่องที่ชัดเจน ที่กล่าวมานั้นไม่เกี่ยวข้องกับการที่คุณไม่สามารถผ่านภารกิจกับผู้อื่นและพูดคุยบางบทสนทนาโดยไม่ต้องติดตามว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร
ภารกิจหลักของเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นในปลายทางใหม่คือ Tangled Shore ยักษ์ใหญ่แต่ละคนมีลักษณะบุคลิกภาพเป็นของตัวเองโดยบางคนมีความทรงจำเป็นพิเศษ ไรเดอร์ขี่ไปรอบ ๆ บน Pike ที่มีซุปและ cackles ขณะที่เธอยิงใส่คุณในขณะที่ภารกิจของ Trickster นั้นเต็มไปด้วยระเบิดที่ดูเหมือน engrams ผู้ค้ารายใหม่ชื่อ Spider (หัวหน้ากลุ่มมรณะที่ถูกบังคับให้เป็นพันธมิตรกับ Scorn) เพิ่มสีสันให้กับภารกิจเหล่านี้เช่นกันจัดการกับคุณในการเสนอราคารอบ ๆ Tangled Shore เมื่อคุณไป
ส่วนรายการระดับเริ่มต้นของเกมอาจใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณเล่นคนเดียวหรือเล่น Fireteam ของอีกหนึ่งหรือสองคน เมื่อคุณทำแคมเปญเสร็จสิ้นคุณจะปลดล็อคจุดหมายปลายทางที่สองนั่นคือเมืองในฝัน ความต้องการระดับนั้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยซึ่งหมายถึงการบดจำนวนมากซึ่งเป็นการท้าทายความสามารถรายสัปดาห์สำหรับอุปกรณ์ที่ทรงพลัง ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีความทุ่มเทนี่อาจเป็นกระบวนการที่ล้าหลังในช่วงเวลาหนึ่งหรืออาจจะเหนื่อยมากในช่วงสองสามวัน
ตามปกติในกรณีของ Destiny 2 ความแข็งแกร่งของกลไกการยิงและการล่อลวงอาวุธและชุดเกราะใหม่ช่วยชดเชยการซ้ำซ้อนที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างการบดกลางเกม หากคุณไม่สนใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ช้ากว่านี้เล็กน้อยคุณก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกสัปดาห์ที่คุณพบว่าน่าเบื่อเหมือนกับการเล่นภารกิจเรื่องเก่า ๆ มันค่อนข้างแปลกที่จะกลับไปที่เนื้อหาเก่าเช่น Strikes ที่ Cayde ยังมีชีวิตอยู่ แต่มันง่ายที่จะมองข้ามในเกมที่คุณสามารถฆ่าบอสตัวเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก
การเพิ่มความโดดเด่นในการหมุนคือ Gambit โหมด PvP ส่วนหนึ่งส่วน PvE ที่ให้คุณแข่งขันกับทีมศัตรูในแผนที่แยกส่วนใหญ่ เป้าหมายหลักของคุณคือการฆ่าศัตรูที่ควบคุมโดย AI รวบรวมแรงจูงใจที่พวกเขาทิ้งและฝากแรงจูงใจเหล่านั้นเพื่ออัญเชิญบอสคนสุดท้ายก่อนที่ทีมอื่นจะอัญเชิญและสังหารพวกเขา ระหว่างทางสมาชิกจากแต่ละทีมจะมีโอกาสบุกแผนที่อื่นและทำคะแนนให้ PvP สังหารเพื่อคลี่คลายความคืบหน้าของฝ่ายตรงข้าม เป็นการรวมตัวกันอย่างสร้างสรรค์ของโหมดที่มีอยู่ของ Destiny และต้องเล่นทั้งด้านข้างของแผนที่และความคืบหน้าของทีมอื่น - และพยายามซ่อนตัวเมื่อผู้บุกรุกมาอย่างบ้าคลั่งทำให้การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นสนุกสนานไม่ว่าจะมีเพื่อนหรือไม่ เช่นเดียวกับวิธีที่ดีในการยกระดับโดยไม่คำนึงถึงความมุ่งมั่นของคุณ
เมื่อคุณทำแคมเปญเสร็จแล้วคุณจะได้รับเควสของเควสเพื่อปลดล็อกมือปืน Exotic มือเอซโพดำ ภารกิจนี้นำคุณจากกลเม็ดไปยังเบ้าหลอมสู่สไตรค์ไปยังดาวเคราะห์ที่แตกต่างกันสองสามดวงโดยส่วนใหญ่ใช้ปืนใหญ่มือแล้วในที่สุดก็ไปสู่ภารกิจเรื่องราว เราจะไม่ทำให้เสียที่นี่ แต่มันจบลงอย่างชาญฉลาดในการสืบเสาะจับคู่ได้ดีกับเรื่องราวหลักและทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับตำนานที่น่าสนใจ Ace of Spades เองก็เป็นเพียงอาวุธที่คุ้มค่าที่จะได้รับ; มันบรรจุหมัดเด็ดและมีแอนิเมชั่นโหลดซ้ำเพื่อความบันเทิงอีกมาก
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ของการเล่นและการเลเวลทุกวันฉันก็อยู่ในสภาพที่ดีที่จะจัดการกับสิ่งที่ Dreaming City มีให้ มันเป็นพื้นที่ที่งดงามด้วยสะพานแสงแวววาวและโครงสร้างคริสตัลระยิบระยับ มันเต็มไปด้วย Taken และพอร์ทัลที่แตกต่างกันสามารถนำคุณไปสู่ระนาบที่แตกต่างกัน - แม้หลังจากสามสัปดาห์และเนื้อหาที่ปลดล็อคหลังจากการโจมตีครั้งแรกเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ยังมีอากาศลึกลับเกี่ยวกับมัน นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาเพิ่มเติมที่เผยแพร่แม้หลังจากปลดล็อคการโพสต์และมันอาจยังคงรีเฟรชเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
กิจกรรมหลักสองอย่างของเมืองในฝันคือ Blind Well และ Ascendant Challenge The Blind Well เป็นกิจกรรมสาธารณะในระดับสูงที่มีความยากลำบาก แม้ว่าคุณจะอยู่กับ Fireteam แต่คุณอาจต้องรอนิดหน่อยเพื่อให้บางคนปรากฏตัวก่อนที่คุณจะเริ่มระดับที่ยากขึ้นและคุณต้องหวังว่าพวกเขาจะรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ มันน่าผิดหวังเมื่อคุณไม่ได้เจลกับ randoms และจบลงด้วยความล้มเหลว แต่เป็นเรื่องน่ายินดีเป็นพิเศษเมื่อคุณซิงค์กับกลุ่มและทำเทียร์ที่สูงขึ้น ในทางกลับกันการท้าทาย Ascendant ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะและดีที่สุดในการจัดการกับ Fireteam มันเปลี่ยนแปลงในแต่ละสัปดาห์ (จนถึงตอนนี้) และสามารถรวมสิ่งต่าง ๆ เช่นกิจกรรมการทำแพลตฟอร์มหรือการต่อสู้ของหัวหน้าที่ท้าทายในระนาบอื่นที่น่าขนลุก
เติมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันคุณจะได้อุปกรณ์ระดับสูงจำนวนหนึ่งซึ่งจะเป็นแรงจูงใจที่ดีเสมอใกล้กับเกมนี้ แต่แม้กระทั่งสามสัปดาห์หลังจากการเปิดตัวมันเป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมลูกเรือจู่โจมเข้าด้วยกัน พวกเราสามคนกำลังเล่นและปรับระดับอย่างรวดเร็ว (สูงสุดคือ 568 ในขณะที่ตัวฉันและอีกคนหนึ่งกำลังบินต่ำกว่า 550) สองคนกำลังเล่นค่อนข้างบ่อยระหว่างหน้าที่การทำงานอื่น ๆ (ทั้งประมาณ 535) และหนึ่งครั้งก็แยกกัน ระหว่าง PC และ PS4 (และอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับ 513 แต่ใช้งานได้อย่างน่าทึ่ง) เราสามารถเผชิญหน้ากันครั้งแรกของการจู่โจม แต่ความต้องการระดับรุนแรงในระดับเกือบทำให้มันเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับ Destiny Raids อื่น ๆ การสื่อสารการทำงานเป็นทีมและทักษะที่จำเป็นต่อการประสบความสำเร็จทำให้เกิดประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจอย่างมาก มันน่าหงุดหงิดที่มันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากที่จะไปถึงที่นั่น
มีหลายอย่างที่ต้องทำใน Forsaken มาก ๆ จนยากที่จะเห็นมันทั้งหมด นั่นก็หมายความว่าสำหรับผู้เล่นทั่วไปการขยายตัวนี้มีหางยาวกว่าการวนซ้ำก่อนหน้าของ Destiny 2 ความหลากหลายและความยืดหยุ่นของกิจกรรมที่จัดตั้งขึ้นในเกมพื้นฐานยังคงทำงานเพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่ดีและกลเม็ดจะเพิ่มความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง โหมดไปยังบัญชีรายชื่อ จุดจบในขณะที่เข้าถึงได้ยากยังเป็นจุดที่สามารถพบความพึงพอใจได้มากที่สุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น